TRENZ 2016 REPORT
ระยะเวลาเดินทาง 9-20 พฤษภาคม 2559 // ระยะเวลาประชุม 11-13 พฤษภาคม 2559
ระยะเวลา POST TRIP SOUTH ISLAND 14-19 พฤษภาคม 2559 (Pan Pacific)

09 พ.ค. 59
ข้าพเจ้าเดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 491 เดินทางเวลา 18.45 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 ทำการแลกเงินที่สนามบิน แล้วไปนั่งชิลที่ King Power Lounge คาดหวังว่าจะมีของทานเยอะ ๆ ก็ปรากฏว่ามีไม่มากเหมือนเคย แต่ดีที่ยังไปทันรอบเสิร์ฟก๋วยจั๋บ ซึ่งก็นับว่ารสชาตดีใช้ได้
เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่อง การบินไทยยังคงให้บริการดีมาก ๆ เช่นเคย บินตรง 11 ชั่วโมง มีเสิร์ฟอาหารร้อน 2 รอบ อาหารรสชาตถูกปาก และการบริการน้ำดื่ม ขนมนิดหน่อยก็ยังมีตลอดการเดินทาง ที่ทราบเพราะตื่นอยู่เกือบตลอดเวลา ดูหนังไปหลายเรื่องทีเดียว

10 พ.ค. 59
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติโอ๊คแลนด์ เกาะเหนือประเทศนิวซีแลนด์ เวลาท้องถิ่น 10.45 น. ข้าพเจ้าพยายามมองหา Arrival Card เพื่อนำกลับมาที่บริษัท แต่หาไม่พบ เมื่อถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า ให้รับจากพนักงานบนเครื่องบิน และเจ้าหน้าที่จะให้เราเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อดเจ้าค่ะ! สนามบินเมืองนี้มีขนาดไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก เดินไปเดินมาจนสุดทางก็ยังไม่เมื่อยซักนิด ข้าพเจ้านั่งรอเจ้าหน้าที่มารับ ที่จุดขายอาหารบนชั้น 2 ต้มโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปที่พกมาจากเมืองไทยทานไปก่อน เพราะท้องไส้ยังปรับตัวกับอาหารสไตล์ตะวันตกไม่ได้ ทานจนหมด ก็ถึงเวลานัดหมาย 13.00 น. ออกไปพบเจ้าหน้าที่ ขึ้นรถโค้ชมุ่งหน้าสู่เมืองโรโตรัว อันเป็นสถานที่จัดการประชุม TRENZ 2016 ในครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เนื่องจากพักเข้าห้องน้ำ และพักเบรคของคนขับรถตามกฏหมายของนิวซีแลนด์เค้า เราก็พักกันที่เมืองมาทามาท่า ข้าพเจ้ารีบวิ่งเร็วจี๋ อยากเข้าไปดู I-site ของเมืองนี้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ข้อมูลมีมากแค่ไหน แผนที่ต่าง ๆ มีให้ลุกค้าข้าพเจ้าอย่างละเอียดลออหรือไม่ จนสุดท้ายก็ได้คำตอบ พร้อมแม่เหล็กติดตู้เย็นติดมือกลับมา 1 อัน สบายใจเฉิบ!

ได้พักประมาณ 15-20 นาทีได้ เราทุกคนก็ออกเดินทางต่อไป ข้าพเจ้าไม่อยากหลับเลย แต่ด้วยสองข้างทางที่วิวไม่แตกต่าง มีวัวเยอะแยะ แกะเยอะแยะ ทำให้ข้าพเจ้าเคลิ้มหลับบ้างบางที จนในที่สุดก็เดินทางมาถึงเมืองแห่งความร้อนใต้ภิภพ หรือชื่อเรียกเก๋ ๆ ว่า “โรโตรัว”

มาถึงที่นี่ สิ่งแรกที่เราทำคือ มุ่งหน้าเข้าไปเซ็นต์ชื่อรายงานตัวเป็นผู้เข้าร่วมประชุมทันที จากนั้นฝากกระเป๋าไว้ก่อน ก็มีเวลานั่งพักเหนื่อยเล็กน้อย ก่อนถึงเวลาเปิดงาน Welcome Function ในเวลา 17.30-19.00 น. อาหารที่เสิร์ฟเป็นอาหารแบบ Finger Food ขนาดเล็ก ๆ ไม่อิ่มอร่อยเอาซะเลย ข้าพเจ้าลองทานเข้าไป 2-3 อย่างก็ถอดใจ คิดว่ามื้อนี้ต้องออกไปหาอะไรทานเองข้างนอกดีกว่า

เสร็จจากงานเลี้ยงต้อนรับ ข้าพเจ้านั่งรถโค้ชจาก Energy Events Centre ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุม ไปยังโรงแรม Sudima Hotel อันที่จริงระยะทางจากสถานที่จัดประชุมจนถึงโรงแรมก็สามารถเดินได้ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แต่ข้าพเจ้าเพิ่งมาถึงไม่รู้ทาง และยังมีกระเป๋าใบบิ๊กอยู่กับตัว นั่งรถไปเห็นจะดีกว่า

เมื่อมาถึงที่โรงแรม เช้คอินเรียบร้อย ก็ได้เจ้าหน้าที่หล่อเข้มลากกระเป๋าพาไปส่งที่ห้อง 320 ข้าพเจ้าไม่มีเงินสดย่อยติดตัว เลยไม่ได้ให้ทิปหนุ่มหล่อนั่น ก็แอบเสียใจนิด ๆ แต่พอหันมาเจอสภาพห้องที่สะอาดสะอ้านสวยงาม ข้าพเจ้าก็ลืมความเสียใจไปสิ้น ที่แทนที่เข้ามาคือความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ข้าพเจ้าไม่อยากอาบน้ำเลย อยากกินยาแล้วหลับไปยาว ๆ จนถึงเช้า แต่ก็ต้องอดทนถ่ายรูปห้องซักหน่อย จากนั้น ออกไปหาอะไรทานข้างนอก แล้วค่อยกลับมานอน

ข้าพเจ้านัดหมายกับเพื่อนคนไทยที่ไปประชุมด้วยกัน ไปทานกันที่ร้าน Chopsticks Restaurant มันเป็นร้านอาหารจีนที่ใกล้ ๆ กับที่พัก พอเดินไปถึงได้ ข้าพเจ้าทานซุปไข่ ผัดผักคะน้าเล็ก ๆ กับข้าวสวย อิ่มแล้วจึงได้ทราบจากเพื่อนว่าร้านนี้ได้คะแนนใน Trip Adviser ต่ำมาก ๆ แต่ด้วยความหิวของข้าพเจ้า ร้านนี้เอาไปเลย 5 ดาว 555+ ทานหมด กลับไปนอน พรุ่งนี้เริ่มประชุมแต่เช้า ข้าพเจ้าต้องไม่มีอาการ Jet lac ข้าพเจ้าต้องนอนให้มาก…

11 พ.ค. 59
ข้าพเจ้าตื่นเช้ามาก ประมาณซัก 06.00 น. เห็นจะได้ รีบอาบน้ำแต่งตัว เพราะอากาศหนาว จึงทำให้มีเลือดกรังอยู่ที่จมูก ต้องเปิดน้ำร้อนให้ไอน้ำมีเยอะ ๆ ในห้องน้ำ แล้วขังตัวเองไว้ในนั้นหายใจเอาไอน้ำเข้าไป 10 นาทีก็สามารถเคลียร์จมูกได้อย่างง่ายดาย ข้าพเจ้าแต่งตัวดีและอบอุ่นกว่าที่อยู่เมืองไทยมาก เพราะเป็นงานประชุมสำคัญและข้าพเจ้ามาในฐานะตัวแทนบริษัทออลเวย์ เวเคชั่น ที่ใคร ๆ ก็รู้จักในฐานะผู้ที่ให้คำแนะนำลูกค้า FIT เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์มายาวนาน

เราเริ่มการประชุมกันอย่างดุเดือด ตั้งแต่เวลา 09.00 น.- 18.00 น. ผ่านหลากหลายบริษัท หลากหลาย Land Operation หลากหลายกิจกรรม ต่างความน่าสนใจ ข้าพเจ้าจดบันทึกในบางส่วนที่มีอัพเดทเพิ่มเติม และในบางส่วนที่ใหม่สำหรับเราเอาไว้ หลาย ๆ Appointment ที่คุณทรายได้เลือกให้ หรือแม้กระทั่งข้าพเจ้าเลือกเอง เป็นการไปพบปะเพื่อกระชับความสัมพันธ์ และอัพเดทความคืบหน้าในเชิงธุรกิจกันเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงผ่อนคลายและมีความสุข กระตือรือร้นไม่เหนื่อยเลย

ระหว่างการประชุมพูดคุย จะมีช่วงเวลาสั้น ๆ 5 นาทีได้ เพื่อให้เราดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งหยิบขนมจาก TRENZ Snack Shack Bar มาทานได้อย่างไม่จำกัด ข้าพเจ้าไม่ชอบกินขนม แต่ข้าพเจ้าชอบผลไม้มาก แอปเปิ้ลเอย กีวี่เอย ข้าพเจ้าทานได้เยอะ แต่ผลไม้พวกนี้ไม่อิ่มท้อง ข้าพเจ้าต้องต้มมาม่าทานเหมือนเคย

ในช่วงพักกลางวัน เราทานอาหารร่วมกัน ในส่วนที่เป็นโรงยิมถูกดัดแปลงอย่างง่าย ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่โล่ง ตั้งโต๊ะนั่งรับประทานอาหารได้เป็นร้อยโต๊ะเลย อาหารก้หลากหลายขึ้น มีข้าวสวย ผัดผักที่ข้าพเจ้ามองแล้วทานได้ แต่ก็นั่นแหละ อย่าไว้ใจพ่อครัวต่างชาติ เพราะเค้าจะหุงข้าวสวยดิบ แล้วเราก็จะทานกันไม่ได้อีก 555+

การประชุมอย่างยาวนานจบลงสำหรับวันนี้ ข้าพเจ้าและเพื่อนคนไทย นัดกันว่าจะไปลองแช่น้ำแร่ที่ Polynesian Spa กันดู มันตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรม Sudima ที่ข้าพเจ้าพักอยู่สามารถเดินไปได้เลยไม่เกิน 3 นาที หลังจากการประชุม เราจึงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อบอุ่นใส่สบาย และชุดสำหรับเปลี่ยนหลังจากแช่น้ำเสร็จใส่กระเป๋าไว้ จากนั้น เดินไปหาข้าวเย็นทางกันที่ในตัวเมืองห่างออกไปพอเดินไหว เราทานกันที่ร้าน The Pig & Whistle สเต็กจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เตรียมมา กับเบียร์รสนุ่ม 2-3 แก้วคืนนี้ อาจทำให้ข้าพเจ้าหลับสบาย

หลังทานอาหารเสร็จแล้ว ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.00 น. เรามุ่งหน้าไปยัง Polynesian Spa โชว์บัตรเป้นผู้เข้าร่วมงาน TRENZ ก็ได้รับสิทธิ์ให้ทดลองแช่น้ำฟรี แต่ต้องเสียค่าเช่าชุดว่ายน้ำเอง NZD5 ข้าพเจ้าจัดการเปลี่ยนชุดเรียบร้อย เลือกแช่น้ำในฝั่ง Private Pool Deluxe ด้านในจะมีบ่อน้ำแร่หลายบ่อ อุณหภูมิแต่ละบ่อจะแตกต่างกันไป เช่น 36 องศาเซลเซียส 38 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 42 องศาเซลเซียส ข้าพเจ้าเลือกทดลองลงในบ่อที่อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ว่าดีต่อผิวพรรณและสุขภาพ แต่เพียง 15 นาทีเท่านั้น ความอดทนของข้าพเจ้าก็หมดลง ข้าพเจ้าตาลาย หายใจเหนื่อย หิวน้ำมาก ๆ จนตัดสินใจขึ้นดีกว่า 555+ อาบน้ำสระผมเรียบร้อย พวกเราก็กลับที่พักกัน ** ที่นี่ จะเตือนนักท่องเที่ยวที่สวมเครื่องเงินเสมอว่า ให้ถอดออกก่อนลงแช่น้ำ เพราะกัมมะถันในน้ำจะทำให้เครื่องประดับของเราเปลี่ยนเป็นสีดำ ข้าพเจ้าไม่ได้ฟัง แหวน และต่างหูข้าพเจ้าจึงดำเมี่ยม แต่ไม่เป็นไรนะ มันสามารถเอาชุบน้ำยาและกลับมาขาวใสดังเดิมได้ค่ะ

12 พ.ค. 59
เช้าวันนี้ข้าพเจ้าตื่นเต้มมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะจะได้คุยงานหรอกนะ แต่เป็นเพราะเราจะคุยงานกันแค่ช่วงเช้าเท่านั้น เพราะในตอนบ่าย ทุกคนที่ร่วมงานจะมีกิจกรรมพิเศษที่เรียกรวม ๆ ว่า “Destination Rotorua Activity Afternoon for all delegates” ทุกคนที่ตอบรับงานประชุม จะมีโอกาสได้เลือกว่าสนใจกิจกรรมใดบ้าง และลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปประชุมกันเลยทีเดียว แต่ข้าพเจ้าไม่ได้เลือกไปเพราะพลาดอีเมลล์นั้นหรืออย่างไรไม่ทราบได้ จึงต้องไปลุ้นเอาที่หน้างานว่ากิจกรรมที่อยากเข้าร่วมนั้น ยังมีที่นั่งเหลือพอหรือไม่ และขอบคุณพระเจ้า “Hobbiton Tour” ยังคงพอมีที่เหลือให้ข้าพเจ้าได้ไป

เราประชุมงานกันหนักเช่นเคยในช่วงเช้า มีพักจิบกาแฟบ้างในช่วงสั้น ๆ และเมื่อเวลา 13.30 น. เราทุกคนมุ่งหน้าไปรับ Packed Lunch คนละกล่องแล้วขึ้นรถตามหมายเลขทัวร์ที่แต่ละคนได้เลือกไว้ ข้าพเจ้าได้เบอร์ 2 ขึ้นรถแล้วก็รีบทานอาหารให้เสร็จ เพราะเราต้องเดินทางไกลจากเมืองโรโตรัวไปยังมาทามาท่า ห่างออกไปถึง 2 ชม.

เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่พาเราท่องไปยังดินแดนฮอบบิท และ Shire’s Rest เนื้อที่สีเขียวกว้างใหญ่ไพศาล และพาไปดู Movie’s Set ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง THE HOBBIT สถานที่สวยงามตามท้องเรื่อง ท้องฟ้าเปิดมีฝนโปรยเล็กน้อยตลอดการเดินทาง แต่โดยรวมก็ยอดเยี่ยมมาก

เมื่อจบทัวร์ รถโค้ชพามาส่งที่ I-site โรโตรัวเพื่อที่เราจะสามารถเดินหาร้านอาหาร ทานข้าวเย็นกันได้ ข้าพเจ้าโทรนัดเพื่อนคนไทยด้วยกัน และทานข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารไทยชื่อ Wild Rice Thai Cuisine ร้านอาหารนี้อยู่ในบริเวณ Food Street เราพากันเดินผ่าน Rotorua Night Market ด้วย ที่นี่ขายผักผลไม้ราคาไม่แพง และมีอาหารนานาชาติหลากหลายมาตังบูทขาย ผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมาเดินกันอย่างคึกคัก ดูดีดีแล้วก็คล้าย ๆ ตลาดสดเมืองไทย เพียงแต่ที่นี่ผัก ผลไม้เค้าดูสด ใหม่ และสะอาดกว่ามาก ข้าพเจ้าเห็นบางคนซื้อแล้วก็หยิบมันขึ้นมากัดกินกันเลย ไม่เห็นว่าเค้าจะต้องเอามันไปล้างก่อนแต่อย่างใด…

13 พ.ค. 59
วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุมแล้ว ตารางนัดหมายของข้าพเจ้ายังคงแน่นเอี้ยดเหมือนเคย วันนี้เราผ่อนคลายกันมากขึ้น เพราะจุดสนใจของเราอยู่ที่งานเลี้ยงเย็นนี้ที่ Skyline Rotorua

ระหว่างประชุม ข้าพเจ้าก็ขอถ่ายภาพกับคนนั้น คนนี้ที่รู้จักเอาไว้เป็นที่ระลึก สีหน้าผู้คนดูเหน็ดเหนื่อย แต่รอยยิ้มของแต่ละคน ก็ไม่ได้จางหายไปเลย ทุกคนดูกระตือรือร้นอย่างมากกับการที่จะได้ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กันคืนนี้

และแล้วเวลาสำหรับการคุยงานก็จบลง เราทุกคนกลับไปเตรียมตัว อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่โรงแรม ก่อนที่รถจะเดินทางมารับไปยัง Skyline Rotorua ตอน 19.00 น. ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึง เราขึ้นกระเช้าลอยฟ้า หรือที่เรียกกันแบบเก๋ ๆ ว่า Gondola ขึ้นสู่ยอดเขาโงโงทาฮ่า ข้าพเจ้าเลือกทดลองเล่นลูจ ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนทานอาหารเลยทีเดียว แต่ด้วยความมืด ทำให้กิจกรรมนี้ดูแสนน่ากลัวสำหรับคนตาไม่ดีอย่างข้าพเจ้า เสร็จจากกิจกรรมเรียกน้ำย่อย เราก็ไปตักอาหารกันที่ไลน์อาหารแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารขึ้นชื่อของนิวซีแลนด์ถูกนำขึ้นเสิร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งล็อปสเตอร์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรม เนื้อวัว เนื้อแกะ ที่ย่างเป็นสเต็กฉ่ำ ๆ น่าทาน และอีกหลากหลายเมนู ข้าพเจ้าบอกเลยว่า มื้อนี้เป็นมื้อที่มีความสุขมากที่สุดเลย

เราจบเวลาแห่งความสุข สนุกสนาน เอาไว้ที่เวลา 21.00 น. เราเดินทางลงมาด้านล่าง นั่งรถโค้ชกลับโรงแรมที่พัก เพื่อจัดกระเป๋าเดินทาง บางคนเดินทางกลับประเทศตัวเองในวันพรุ่งนี้เลย บางคนก็ออกเดินทางเพื่อร่วม Post Famil กันต่อ ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น ที่ต้องออกเดินทางไปร่วมโปรแกรม Post Famil Trip เส้นทาง Christchurch – Lake Tekapo – Dunedin – Te Anau – Milford sound – Queenstown ยาวนานถึง 6 คืน ความสนุกกำลังจะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้แล้ว

****************************