เที่ยวนิวซีแลนด์ ตอนที่ 2 – Travel in Wellington

เวลลิงตัน เป็นเมืองที่ตั้งของรัฐสภา และกระทรวงต่าง ๆ  ทั้งยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของหลาย ๆ องค์กร เหมาะมากสำหรับกลุ่มนักธุรกิจที่จะมาศึกษาดูงาน หรือเจรจาการค้าต่าง ๆ ส่วนที่ท่องเทียวสำคัญที่ไม่ควรพลาด คือ พิพิธภัณฑ์ Te Papa ที่ตั้งอยู่ริมอ่าว และไม่เสียค่าเข้าชม 02-Te-Papa-Exhibition-hall2ควรค่าแก่การมาเยือน เพราะที่นี่ ติด 1 ใน 50 ของพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก การจัดแสดงทันสมัย และเป็นแบบ interactive ให้เราสัมผัส และเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่น่าสนใจมีหลายอย่าง อาทิ การจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมเมารี, แบบจำลองนกมัวที่บินไม่ได้ ซึ่งได้สูญพันธุ์ไปจากโลกเป็นเวลานานแล้ว, ห้องแสดงการเกิดแผ่นดินไหว โดยมีห้องจำลองให้เราได้ลองไปอยู่ในบ้าน และสัมผัสถึงความสั่นสะเทือนระดับเดียวกับแผ่นดินไหวจริง และสิ่งที่ฉันใฝ่ฝัน อยากเห็นกับตาตัวเอง คือ Colossal Squid ปลาหมึกยักษ์ขนาดมหึมา ที่มีความยาวหลายเมตร และหนักหลายร้อยกิโล ที่พบในมหาสมุทรแอนตาร์ติก ซึ่งนับเป็นปลาหมึกตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา

07-WLG-Cafe-Poach-Egg-ส่วนอื่น ๆ ที่น่าหลงใหลในเวลลิงตัน คือวัฒนธรรมเรื่องอาหารการกิน และแฟชั่น ว่ากันว่า หากเรานับกันเป็นจำนวนต่อหัวของประชากรแล้ว ที่เวลลิงตันนี้ นับว่ามีจำนวนคาเฟ่และบาร์ มากกว่าที่นิวยอร์คเสียอีก บริเวณอันเป็นแหล่งรวม ร้านอาหารจานอร่อย อาทิ Lambton Quay, Willis Street, Courtenay Place, Cuba Street และ Queens Wharfแต่หากพูดถึงเรื่องอาหารเอเชี่ยนแล้ว ที่นี่จะออกแนวเอเชี่ยนประยุกต์ (Fusion) เป็นอาหารจานเก๋ มากกว่าจะเป็นอาหารเอเชียแท้ ๆดั้งเดิม  หากต้องการล้ิมรสอาหารเอเชียแท้ ๆ แนะนำว่า ที่โอ๊คแลนด์จะหาได้ง่ายกว่า เนื่องด้วยมีประชากรชาวเอเชียอาศัยอยู่ในโอ๊คแลนด์เป็นจำนวนมากถึง110,000 คน โดยประมาณ

นอกจากนี้ ที่สนามบินนานาชาติเวลลิงตัน ได้แสดงถึงสิ่งที่ชาวกีวี มีความภูมิใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ ภาพยนตร์เรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ที่ทำให้ประเทศนิวซีแลนด์เป็นที่รู้จักของชาวโลกมากขึ้น ชาวกีวีภูมิใจ ถึงขนาดสร้างรูปปั้นกอลลัมลงไปดำน้ำจับปลา ขนาดมหึมา ประมาณ 13 เมตร แขวนอยู่ในสนามบิน ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกสายตาหยุดจ้อง ตะลึงมอง และถ่ายภาพที่ระลึก